ทักษิณ ชินวัตร ในนาม โทนี่ วู้ดซัม เหน็บเจ็บ วิธีสอบแบบถุงคลุมหัวของ ผู้กำกับโจ้ เอาตัวอย่างมาจาก คสช. ที่ตอนรัฐประหารใช้ถุงผ้าคลุมนักการเมืองไปสอบ วันที่ 31 ส.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเสวนาผ่าน Clubhouse ที่จัดโดยกลุ่ม Care คิด เคลื่อน ไทย เป็นครั้งที่ 14 ในตอน “ขอไม่ไว้วางใจประยุทธ์ด้วยอีกคน” คู่ขนานกับการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ในรัฐสภา ในวันแรกที่ผ่านมา
โดยตอนหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวถึงประเด็นร้อยคดีเค้นสอบผู้ต้องหาของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้
ซึ่งนายทักษิณ หรือ โทนี่ วู้ดซัม ได้กล่าวว่า บ้านเราเป็นระบบกล่าวหา (adversary system) เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวหาประชาชน ต้องนำสืบที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยลักษณะพยานต่างๆ เพื่อต่อสู้กันด้วยพยานหลักฐานในชั้นศาล ไม่มีการซ้อม
ส่วนวิธีการสอบแบบคลุมถุงดำ ไม่แน่ใจว่าเลียนแบบ คสช. มาหรือเปล่า เพราะ คสช. ตอนทำรัฐประหารก็ใช้ถุงผ้าคลุมนักการเมืองไปสอบสวน กรณีที่เกิดขึ้นนี้ วิธีการสอบสวนมันผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น วันนี้เราย้อนยุค จากระบบกล่าวหา เป็นระบบปรักปรำ ไปรีดข้อมูลจากผู้ถูกกล่าวหา ผิดทั้งกฎหมาย จรรยาบรรณ และวิชาชีพตำรวจ พอตำรวจอยู่ใกล้ทหารมากก็เลยกลายเป็นเผด็จการไปตามกัน
ขณะเดียวกัน ดร.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และแกนนำกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ได้ถามว่าในฐานะที่เป็นอดีตตำรวจ คิดยังไงกับการปฏิรูปตำรวจ
“คนที่มามีอำนาจ พอจะให้ปฏิรูปตำรวจก็ปรากฏว่า “ไม่ได้ทำสักที” ตอนสมัยผมเนี่ย ทำอยู่ได้ระดับหนึ่ง ยอมรับว่าทำได้ไม่เต็มที่ เพราะว่าความเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจมันมีอยู่ ความรักตำรวจ มันมีอยู่ โลก โกรธ หลง ทำให้โง่ ความรักก็อาจจะทำให้ตาบอด แทนที่จะทำให้เต็มที่ ก็ทำได้ไม่เต็มที่ สิ่งที่ทำในวันนั้น ที่ผมตระหนักที่สุด คือ การซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก เพราะเป็นค่าใช้จ่ายของประชาชน อย่างถ้าผู้กำกับย้ายมาอยูที่นี่ โดนไป 7 ล้านจะเอาตังค์ที่ไหนมา ก็ไปกู้หนี้ยืมสินมา แล้วก็มารีดไถเพื่อใช้หนี้คืน อันนี้คือสิ่งเลวร้ายที่สุดของการแต่งตั้งโยกย้าย และวันนี้ไม่ใช่แค่วงการตำรวจอย่างเดียว มันลามมาถึงข้าราชการวงการอื่นๆ ผมรู้มีหลายที่เก็บตังค์กัน ผลสุดท้ายคืออะไร คือเป็นภาระประชาชนทันทีเลย” คุณโทนี่ กล่าว
มาแล้ว! ศรีสุวรรณ ยื่นฟ้อง ไฮโซลูกนัท-บก.ลายจุด-ณัฐวุฒิ ปม ม็อบ29สิงหา
ศรีสุวรรณ บุก สน.บางเขน เพื่อแจ้งความ ณัฐวุฒิ-บก.ลายจุด-ไฮโซลูกนัท กรณีนัดชุมนุม ม็อบ29สิงหา ชี้ผิดหลายกระทง นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่าได้เดินทางไปยัง สน.บางเขนแจ้งความเอาผิด ณัฐวุฒิ-บก.ลายจุด-ไฮโซลูกนัท แกนนำจัดคาร์ม็อบคอลเอ้าท์เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา
โดยนาย ศรีสุวรรณ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวได้นัดรวมตัวที่ถนนประเสริฐมนูญกิจ แยกเกษตร ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยัง จ.ปทุมธานี อันเป็นการกีดขวางทางสัญจรของประชาชน มีการปราศรัย ผ่านเครื่องขยายเสียง ซึ่งมีแนวร่วมส่งเสียง บีบแตรยานยนต์ ส่งเสียงโหวกเวก เป็นที่เบื่อหน่าย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและสาธารณะ เป็นพฤติการณ์ที่ไม่ย่ำเกรงกฎหมายของบ้านเมือง ไม่มีสำนึกรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของผู้อื่น แต่กลับมาเป็นแกนนำสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว มีหลายกระทงความผิดด้วยกัน อาทิ ความผิดฐานฝ่าฝืน มาตรา 9 แห่งพรก.ฉุกเฉิน 2548, ฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง(ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 3 ส.ค.64, ฝ่าฝืน หรือการกระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม ม.34(6) ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558
นอกจากนั้นยังฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา ม.116, ม.215 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก ตาม ม.216, ความผิดฐานกีดขวางการจราจร ตาม ม.43 ของพ.ร.บ.จราจรทางบก 2522, ความผิดฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องขยายเสียงฯ 2493 และยังเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83 ในฐานะเป็นตัวการที่ร่วมกระทำความผิดกับบุคลลอื่นๆ ที่มาร่วมคาร์ม็อบคอลเอ้าท์ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายกระทงความ
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงไม่อาจปล่อยให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวย่ามใจในการจัดกิจกรรมในลักษณะปั่นป่วนสังคมดังกล่าวต่อไปอีกได้ จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน เพื่อดำเนินการสอบสวนเอาผิดและดำเนินคดีตามครรลองของกฎหมาย และส่งอัยการฟ้องศาลพิพากษาลงโทษขั้นสูงสุดอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคมต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าปี 2565 จะเป็น “ปีแห่งการต่อยอด” ของไทย จากศักยภาพและความสำเร็จท่ามกลางวิกฤตที่เราได้สร้างไว้ตลอดปี 2564 ที่ผ่านไป ซึ่งจะเป็นการต่อยอดอย่างมั่นคง ยั่งยืน ด้วยโอกาสดีๆ ที่เราจะได้รับตลอดทั้งปี
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม